เมื่อ พิจารณา ศัพท์ คำ ว่า คอมพิวเตอร์ ถ้า แปล กัน ตรง ตัว ตาม คำ ภาษา อังกฤษ จะ หมาย ถึงเครื่องคำนวณ ดัง นั้น ถ้า กล่าว อย่าง กว้าง ๆ เครื่องคำนวณ ที่ มี ส่วน ประกอบ เป็นเครื่องกล ไก หรือเครื่องไฟ ฟ้า ต่าง ก็ จัด เป็น คอมพิวเตอร์ ได้ ทั้ง สิ้น ลูก คิด ที่ เคย ใช้ กัน ใน ร้าน ค้า ไม้ บรรทัด คำนวณ (slide rule) ซึ่ง ถือ เป็นเครื่องมือ ประจำ ตัว วิศวกร ใน ยุค ยี่ สิบ ปี ก่อน หรือเครื่องคิด เลข ล้วน เป็น คอมพิวเตอร์ ได้ ทั้ง หมด
ใน ปัจจุบัน ความ หมาย ของ คอมพิวเตอร์ จะ ระบุ เฉพาะ เจาะ จง หมาย ถึงเครื่องคำนวณ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ สามารถ ทำ งาน คำนวณ ผล และ เปรียบ เทียบ ค่า ตาม ชุด คำ สั่ง ด้วย ความ เร็ว สูง อย่าง ต่อ เนื่อง และ อัตโนมัติ พจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ . 2525 ได้ ให้ คำ จำกัด ความ ของ คอมพิวเตอร์ ไว้ ค่อน ข้าง กะ ทัด รัด ว่า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์ แบบ อัตโนมัติ ทำ หน้า ที่ เสมือน สมอง กล ใช้ สำหรับ แก้ ปัญหา ต่าง ๆ ทั้ง ที่ ง่ายและ ซับ ซ้อน โดย วิธี ทางคณิต ศาสตร์
การ จำแนก คอมพิวเตอร์ ตาม ลักษณะ วิธี การ ทำ งาน ภาย ในเครื่องคอมพิวเตอร์ อาจ แบ่ง ได้ เป็น สอง ประเภท ใหญ่ ๆ คือ
แอ นะล็อก คอมพิวเตอร์ (analog computer) เป็นเครื่องคำนวณ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ ไม่ ได้ ใช้ ค่า ตัว เลข เป็น หลัก ของ การ คำนวณ แต่ จะ ใช้ ค่า ระดับ แรง ดัน ไฟ ฟ้า แทน ไม้ บรรทัด คำนวณ อาจ ถือ เป็น ตัว อย่าง หนึ่ง ของ แอ นะล็อก คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ ค่า ตัว เลข ตาม แนว ความ ยาว ไม้ บรรทัด เป็น หลัก ของ การ คำนวณ โดย ไม้ บรรทัด คำนวณ จะ มี ขีด ตัว เลข กำกับ อยู่ เมื่อ ไม้ บรรทัด หลาย อัน มร ประกบ รวม กัน การ คำนวณ ผล เช่น การ คูณ จะ เป็น การ เลื่อน ไม้ บรรทัด หนึ่ง ไป ตรง ตาม ตัว เลข ของ ตัว ตั้ง และ ตัว คูณ ของ ขีด ตัว เลข ชุดหน ึ่ง แล้ว ไป อ่าน ผล คูณ ของ ขีด ตัว เลข อีก ชุด หนึ่ง แอ นะล็อก คอมพิวเตอร์ แบบ อิเล็กทรอนิกส์ จะ ใช้ หลัก การ ทำนอง เดียว กัน โดย แรง ดัน ไฟ ฟ้า จะ แทน ขีด ตัว เลข ตาม แนว ยาว ของ ไม้ บรรทัด
แอ นะล็อก คอมพิวเตอร์ จะ มี ลักษณะ เป็น วง จร อิเล็กทรอนิกส์ ที่ แยก ส่วน ทำ หน้า ที่ เป็น ตัว กระ ทำ และ เป็น ฟังก์ชัน ทางคณิต ศาสตร์ จึง เหมาะ สำหรับ งาน คำนวณ ทางวิทยา ศาสตร์ และ วิศวกรรม ที่ อยู่ ใน รูป ของ สมการ คณิต ศาสตร์ เช่น การ จำลอง การ บิน การ ศึกษา การ สั่ง สะเทือน ของ ตึก เนื่อง จาก แผ่น ดิน ไหว ข้อ มูล ตัว แปรนำ เข้า อาจ เป็น อุณหภูมิ ความ เร็ว หรือ ความ ดัน อากาศ ซึ่ง จะ ต้อง แปลง ให้ เป็น ค่า แรง ดัน ไฟ ฟ้า เพื่อ นำ เข้า แอ นะล็อก คอมพิวเตอร์ ผล ลัพธ์ ที่ ได้ ออก มา เป็น แรง ดัน ไฟ ฟ้า แปรกับเวลา ซึ่ง ต้อ งแปลง กลับ ไป เป็น ค่า ของ ตัว แปรที่ กำลัง ศึกษา
ใน ปัจจุบัน ไม่ ค่อย พบ เห็น แอ นะล็อก คอมพิวเตอร์ เท่า ไร นัก เพราะ ผล การ คำนวณ มี ความ ละเอียด น้อย ทำ ให้ มี ขีด จำกัด ใช้ ได้กับงาน เฉพาะ บาง อย่าง เท่า นั้น
ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) คอมพิวเตอร์ ที่ พบ เห็น ทั่ว ไป ใน ปัจจุบัน จัด เป็นดิจิทัลคอมพิวเตอร์ แทบ ทั้ง หมด ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องคำนวณ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ ใช้ งาน เกี่ยวกับตัว เลข มี หลัก การ คำนวณ ที่ ไม่ ใช่ แบบ ไม้ บรรทัด คำนวณ แต่ เป็น แบบ ลูก คิด โดย แต่ และ หลัก ของ ลูก คิด คือ หลัก หน่วย หลัก ร้อย และ สูง ขึ้น ไป เรื่อย ๆ เป็น ระบบ เลข ฐาน สิน ที่ แทน ตัว เลข จาก ศูนย์ ถ้า เก้า ไป สิบ ตัว ตาม ระบบ ตัว เลข ที่ ใช้ ใน ชีวิตป ระ จำ วัน
ค่า ตัว เลข ของ การ คำนวณ ในดิจิทัลคอมพิวเตอร์ จะ แสดง เป็น หลัก เช่น เดียว กัน แต่ จะ เป็น ระบบ เลข ฐาน สอง ที่ มี สัญลักษณ์ ตัว เลข เพียง สอง ตัว คือ เลข ศูนย์กับเลข หนึ่ง เท่า นั้น โดย สัญลักษณ์ ตัว เลข ทั้ง สอง ตัว นี้ จะ แทน ลักษณะ การ ทำ งาน ภาย ใน ซึ่ง เป็น สัญญาณ ไฟ ฟ้า ที่ ต่าง กัน การ คำนวณ ภาย ในดิจิทัลคอมพิวเตอร์ จะ เป็น การ ประมวล ผล ด้วย ระบบ เลข ฐาน สอง ทั้ง หมด ดัง นั้น เลข ฐาน สิบ ที่ เรา ใช้ และ คุ้น เคย จะ ถูก แปลง ไป เป็น ระบบ เลข ฐาน สอง เพื่อ การ คำนวณ ภาย ใน คอมพิวเตอร์ ผล ลัพธ์ ที่ ได้ ก็ ยัง เป็น เลข ฐาน สอง อยู่ ซึ่ง คอมพิวเตอร์ จะ แปลง เป็น เลข ฐาน สิบ เพื่อ แสดง ผล ให้ ผู้ ใช้ เข้า ใจ ได้ ง่าย
วิวัฒนาการคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ยุคแรก
อยู่ ระหว่าง ปี พ.ศ . 2488 ถึง พ.ศ . 2501 เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ หลอดสุญญากาศซึ่ง ใช้ กำลัง ไฟ ฟ้า สูง จึง มี ปัญหา เรื่อง ความ ร้อน และ ไส้ หลอด ขาด บ่อย ถึง แม้ จะ มี ระบบ ระบาย ความ ร้อน ที่ ดี มาก การ สั่ง งาน ใช้ ภาษาเครื่องซึ่ง เป็น รหัส ตัว เลข ที่ ยุ่ง ยาก ซับ ซ้อน เครื่องคอมพิวเตอร์ ของ ยุค นี้ มี ขนาด ใหญ่ โต เช่น มาร์ค วัน (MARK I), อี นิ แอค (ENIAC), ยูนิแวค (UNIVAC)
คอมพิวเตอร์ยุคสอง
คอมพิวเตอร์ ยุค ที่ สอง อยู่ ระหว่าง ปี พ.ศ . 2502 ถึง พ.ศ . 2506 เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ ทรานซิสเตอร์ โดย มี แกนเฟอร์ไรท์เป็น หน่วย ความ จำ มี อุปกรณ์ เก็บ ข้อ มูล สำรอง ใน รูป ของ สื่อ บัน ทึก แม่ เหล็ก เช่น จาน แม่ เหล็ก ส่วน ทางด้าน ซอฟต์แวร์ก็ มี การ พัฒนา ดี ขึ้น โดย สามารถ เขียน โปรแกรม ด้วย ภาษา ระดับ สูง ซึ่ง เป็น ภาษา ที่ เขียน เป็น ประโยค ที่ คน สามารถ เข ้าใจ ได้ เช่น ภาษาฟอร์แทน ภาษา โค บอล เป็น ต้น ภาษา ระดับ สูง นี้ ได้ มี การ พัฒนา และ ใช้ งาน มา จน ถึง ปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์ยุคสาม
คอมพิวเตอร์ ยุค ที่ สาม อยู่ ระ หย่างปี พ.ศ . 2507 ถึง พ.ศ . 2512 เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ วง จร รวม (Integrated Circuit : IC) โดย วง จร รวม แต่ ละ ตัว จะ มี ทรานซิสเตอร์ บรรจุ อยู่ ภาย ใน มาก มาย ทำ ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ จะ ออก แบบ ซับ ซ้อน มาก ขึ้น และ สามารถ สร้าง เป็น โปรแกรม ย่อย ๆ ใน การ กำหนด ชุด คำ สั่ง ต่าง ๆ ทางด้าน ซอฟต์แวร์ก็ มี ระบบ ควบ คุม ที่ มี ความ สามารถ สูง ทั้ง ใน รูป ระบบ แบ่ง เวลา การ ทำ งาน ให้ กับงาน หลาย ๆ อย่าง
คอมพิวเตอร์ยุคสี่
คอมพิวเตอร์ ยุค ที่ สี่ ตั้ง แต่ ปี พ.ศ . 2513 จน ถึง ปัจจุบัน เป็น ยุค ของ คอมพิวเตอร์ ที่ ใช้ วง จร รวม ความ จุ สูง มาก (Very Large Scale Integration : VLSI) เช่น ไมโคร โพรเซสเซอร์ที่ บรรจุ ทรานซิสเตอร์ นับ หมื่น นับ แสน ตัว ทำ ให้ ขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์ มี ขนาด เล็ก ลง สามารถ ตั้ง บน โต๊ะ ใน สำนัก งาน หรือ พก พา เห มือ นก ระ เป๋า หิ้ว ไป ใน ที่ ต่าง ๆ ได้ ขณะ เดียว กัน ระบบ ซอฟต์แวร์ก็ ได้ พัฒนา ขีด ความ สามารถ สูง ขึ้น มาก มี โปรแกรม สำเร็จ ให้ เลือก ใช้ กัน มาก ทำ ให้ เกิด ความ สะดวก ใน การ ใช้ งาน อย่าง กว้าง ขวาง
คอมพิวเตอร์ยุคห้า
คอมพิวเตอร์ ยุค ที่ ห้า เป็น คอมพิวเตอร์ ที่ มนุษย์ พยายาม นำ มา เพื่อ ช่วย ใน การ ตัด สิน ใจ และ แก้ ปัญหา ให้ ดี ยิ่ง ขึ้น โดย จะ มี การ เก็บ ความ รอบ รู้ ต่าง ๆ เข้า ไว้ ในเครื่อง สามารถ เรียก ค้น และ ดึง ความ รู้ ที่ สะ สม ไว้ มา ใช้ งาน ให้ เป็น ประ โยชน์ คอมพิวเตอร์ ยุค นี้ เป็น ผล จาก วิชา การ ด้าน ปัญญา ประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ประเทศ ต่างๆ ทั่ว โลก ไม่ ว่า จะ เป็น สหรัฐ อเมริกา ญี่ปุ่น และ ประเทศ ใน ทวีป ยุโรป กำลัง สน ใจ ค้น คว้า และ พัฒนา ทางด้าน นี้ กัน อย่าง จริง จัง